แก้ไขซิลิโคนเหลว, ฟิลเลอร์, สารแปลกปลอม, สารไบโอ อย่างไรช่วยบอกที

สารแปลกปลอม
เป็นสารสงเคราะห์ที่ไม่สามารถสลายตัว และไม่ได้รับการอนุมัติจากอย. อย่างไรก็ตาม มีการนำมาฉีดเนื่องจากมีราคาถูกและสามารถเติมเต็มใบหน้าและรูปร่างให้ได้สัดส่วนสวยงามในทันที และนอกจากนี้ยังมีสารอีกหลายชนิดที่ไม่สลายตัวและนำมาฉีด เช่น พาราฟิน ไบโอพลาสติก ไขมันเทียม ฟิวเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ภายหลังการฉีดมักก่อให้เกิดผลเสียด้านลบมากมาย อาทิ คลำพบก้อนเนื้อ เป็นผื่นแดง เหมือนมีเส้นเลือดฝอยจำนวนมาก ผิวขรุขระ ผิดรูป เกิดเป็นแผลอักเสบเรื้อรังเป็นๆ หายๆ จากข้อมูลทางสถิติของ ชานิสาคอสเมติกส์คลินิก พบว่ามีคนไข้จำนวนมาก เข้ามาปรึกษาและรับการรักษาเกี่ยวกับนำสารแปลกปลอมดังกล่าวออก

การบรรเทา/ Alleviation
1. การฉีดสลาย
คนไข้มักเข้าใจผิดว่าฉีดสารตัวนี้แล้วทำให้ซิลิโคนเหลวสลายไป แต่แท้จริงแล้วสารกลุ่มนี้ยังไม่มียาสลาย เป็นเพียงเพื่อทุเลาอาการระยะหนึ่งเท่านั้น โดยตัวยาจะเข้าไปย่อยสลายเนื้อเยื่อปกติของเราร่วมกับพังผืดบริเวณที่ฉีดสารแปลกปลอมทำให้การแข็งตัวนิ่มลง ซึ่งแพทย์อาจใช้ฉีดก่อนหรือหลังหลังผ่าตัดขึ้นอยู่ดุลพินิจแพทย์ ซึ่งข้อระวังในการฉีดยาสลายต้องใช้ผู้ชำชาญฉีดเนื่องจากมีผลทำให้ผิวหนังขรุขระเป็นคลื่น ผิวหนังบาง เป็นสิวง่าย และตัวผิวหนังมีเส้นเลือดฝอยมากขึ้น โดยปกติถ้าไม่มีการหดรัดตัวของเนื้อเยื่อหรือแข็งตัวมากเกินไปก็ไม่แนะนำให้ฉีด
2. การรับประทานยา
นับเป็นการรักษาแบบประคับประคอง เหมาะสำหรับคนไข้ที่ยังไม่พร้อมสำหรับการผ่าตัด หรือเป็นคนไข้ที่แพทย์ตรวจร่างกายแล้วเห็นว่ายังไม่สามารถผ่าตัดได้ในช่วงนั้น โดยส่วนใหญ่คนไข้มักมาด้วยเกิดการอักเสบรุนแรง เกิดการแพร่กระจายไปยังบริเวณอื่นๆ ไม่เฉพาะเจาะจงเป็นส่วนๆ หากผ่าตัดอาจเป็นการกระตุ้นการอักเสบมากขึ้น ซึ่งกลุ่มยาที่แพทย์สั่งจะเป็น Antibiotic, Anti-inflammation, ลดปวด ไม่แนะนำให้คนไข้ซื้อยารับประทานเองเนื่องอาจทำให้เกิดการดื้อยาและยากต่อการรักษาขั้นต่อไป
การรักษา / Treatment
1. การฉีดสลาย
สำหรับฟิลเลอร์ที่ถูกต้องตามมาตรฐานอย.เท่านั้น
2. การเจาะดูด เทคนิค SOS
- นับว่าเป็นการผ่าตัดอีกวิธีหนึ่ง ที่เอาสารแปลกปลอมออกจากร่างกายโดยเทคนิคเหมือนกับการดูดไขมัน แต่การเจาะหรือดูดบริเวณใบหน้านั้นต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะมีความเสี่ยงระดับหนึ่งเกี่ยวกับเส้นประสาทใบหน้าได้ เช่น ภาวะปากเบี้ยว ยักคิ้วไม่ขึ้น ซึ่งคนไข้ต้องเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงเหล่านี้ได้ แพทย์ถึงจะทำการผ่าตัดให้ โดยปกติการเอาสารเหล่านี้ออกได้มากหรือน้อยเพียงใด แพทย์ไม่สามารถประเมินได้ชัดเจน เพียงบอกได้คราวๆ เท่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพของเนื้อเยื่อบริเวณนั้นว่าแข็งตัวมากน้อยเพียงใด
- การดูดสารแปลกปลอม ซิลิโคนเหลวออก (เทคนิค SOS) เป็นวิธีที่สามารถนำสารเหลวออกมาได้อย่างปลอดภัย เทคนิคนี้เหมาะสำหรับรายที่ก้อนสารแปลกปลอมยังไม่จับตัวแข็งมาก ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของทางคลินิกที่ช่วยลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อด้วยการทำแผลเล็กเพียงขนาดรูเข็ม ส่งผลให้ฟื้นตัวได้รวดเร็วและลดความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. การขูดหรือผ่าตัดเลาะ เทคนิค SOSR
- เทคนิค SOSR ของคลินิกสามารถนำสารเหลวออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม่นยำ และปลอดภัย อีกทั้งยังเน้นการซ่อนแผล เพื่อให้รอยแผลเนียนและกลมกลืนกับสรีระ โดยการเย็บแผลที่ประณีตช่วยให้แผลเรียบเนียนและดูเป็นธรรมชาติ เป็นอีกวิธีหนึ่งซึ่งสามารถเอาสารแปลกปลอมออกจากร่างกายได้ คนไข้ทั่วไปยังเข้าใจผิด ใช้คำว่าขูด โดยปกติสารเหล่านี้เมื่อแข็งตัวแล้วไม่สามารถขูดได้ ซึ่งต้องทำโดยการผ่าตัดเลาะสารแปลกปลอมออก ตำแหน่งที่นิยมผ่าตัดเลาะออกทำได้ตั้งแต่หน้าผาก เปลือกตาบน เปลือกตาล่าง จมูก ริมฝีปาก และคาง หรือพื้นที่อื่นๆ ซึ่งแพทย์ต้องตรวจดูก่อน ซึ่งขนาดของแผลผ่าตัดขึ้นอยู่กับขนาดของปัญหาในบริเวณนั้นๆ

- การผ่าตัดก้อนซิลิโคนเหลวออกอย่างเดียว แพทย์จะแนะนำทำในรายที่มีก้อนชัดเจน หรือบริเวณเนื้อเยื่อที่มีการอักเสบเรื้อรังแล้ว เทคนิค SOSR ของคลินิกสามารถนำสารเหลวออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม่นยำ และปลอดภัย อีกทั้งยังเน้นการซ่อนแผล เพื่อให้รอยแผลเนียนและกลมกลืนกับสรีระ โดยการเย็บแผลที่ประณีตช่วยให้แผลเรียบเนียนและดูเป็นธรรมชาติ
- การเลาะพร้อมเสริมซิลิโคนพรีเมียม เป็นการผ่าตัดที่มีการพัฒนาขึ้นมาอีกระดับหนึ่งในเคสที่ฉีดสารแปลกปลอมมา สมัยก่อนเราผ่าตัดเลาะซิลิโคนออกแล้วต้องรอไประยะหนึ่ง ให้เนื้อเยื่อคืนสภาพ แล้วต้องมาเสริมหรือมาแก้ไขความผิดรูปต่างๆ ที่เกิดขึ้น หรืออาจเกิดขึ้น จากการผ่าตัดเลาะเนื่องจากการเลาะก็คือการตัดเนื้อเยื่อปกติที่มีสารแปลกปลอมเจือปนอยู่ออกมา ซึ่งอาจก่อให้เกิดการยุบตัวของเนื้อเยื่อและผิวบริเวณส่วนที่มีเลาะหรือดูดสารแปลกปลอมออก ทำให้ คนไข้ต้องมีการผ่าตัดหลายรอบและต้องทนความผิดรูปหรือดูไม่สวยงามไประยะหนึ่งปัจจุบันทางคลินิกได้ผ่าตัดเลาะสารและเสริมไปในขั้นตอนเดียว ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับคือ แท่งซิลิโคนจะเข้าไปหนุนโครงสร้างไม่ให้อวัยวะนั้นมีการยุบตัว ผิดรูป หลังการเลาะความสวยงามที่เกิดขึ้นเป็นเพียงผลที่ได้จากการเสริมหรือการใส่แผ่นซิลิโคนเพื่อประคองทรงหลังการเลาะ/ผ่าตัดเท่านั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องให้แพทย์เป็นผู้พิจารณาตรวจ คนไข้ก่อนว่าทำได้ระดับไหน ตำแหน่งที่นิยมเลาะพร้อมเสริม ได้แก่ หน้าผาก จมูก คาง หน้าอก ข้อจำกัดของการเลาะพร้อมเสริมคือบริเวณนั้นต้องไม่เกิดการอักเสบขึ้น หรือมีการติดเชื้อในขณะนั้น

ทำไมต้องแก้สารแปลกปลอมที่ Chanisa Cosmetic Clinic ?
แนวทางการแก้ไข
ทุกข้อที่กล่าวมาเป็นเพียงการลดปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น ลดกระจายไหลไปพื้นที่ใกล้เคียง ลดการผิดรูปของเนื้อเยื่อ โดย นพ.อนันต์ สุวรรณเทวะคุปต์ แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง ชานิสาคอสเมติกส์คลินิก ได้กล่าวไว้ว่า การนำซิลิโคนเหลวออกจากร่างกายเป็น การรักษาทางศัลยกรรมที่แก้ไขความพิการหรือผิดรูปไม่ได้เป็นศัลยกรรมเพื่อเสริมสวย ซึ่งเป็นการรักษาโรคๆ หนึ่งที่คนไข้ทำเองโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือถูกชักจูง ไม่มีวันหายขาด แต่ก็สามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้ ขอเพียงคนไข้เข้าใจการรักษาซึ่งต้องใช้เวลาและความอดทน ในระยะแรกหลังฉีดอาจแก้ไขได้ง่ายเนื่องจากซิลิโคนเหลวยังอยู่ในพื้นที่ที่จำกัด แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปเนื้อเยื่อถูกทำลายมากขึ้นมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของผิวหนังบริเวณที่ฉีดมากขึ้น ซึ่งการรักษาทำได้ยาก ไม่สามารถผ่าตัดเอาซิลิโคนเหลวออกจากร่างกายได้หมด และ ไม่สามารถแก้ไขให้กลับเหมือนเดิมได้ 100 % ดังนั้นจะให้แพทย์ผู้ผ่าตัดรับประกันเกี่ยวกับผลการรักษาคงเป็นไปได้ค่อนข้างยาก

ถาม - ตอบ
จากการเก็บสถิติของคนไข้ที่มารักษากับทาง ชานิสาคอสเมติกส์คลินิก พบว่า สารแปลกปลอมจำพวกซิลิโคนเหลวสามารถอยู่ในร่างกายเราได้ในบางคน โดยไม่มีปฏิกิริยา ซึ่งหมายถึงในผู้ที่ฉีดซิลิโคนเหลวไปแล้ว ไม่ใช่ว่าทุกรายที่ร่างกายจะเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน มีคนไข้จำนวนน้อยที่ภายหลังการฉีดแล้วไม่มีอาการใดๆ ดังนั้นในคนกลุ่มนี้จึงอาจไม่จำเป็นต้องผ่าตัดรักษาเพื่อนำสารเติมเต็มนี้ออก ยกเว้นผู้ที่เกิดอาการต่อต้าน มีการอักเสบ หรือผิดรูปขึ้น
โอกาสเกิดอักเสบขึ้นอยู่กับ ชนิด ปริมาณของสารที่ฉีด กับการตอบสนองของร่างกายของแต่ละคน ซึ่งแต่ละคนไม่เท่ากัน โดยส่วนใหญ่การอักเสบเกิดขึ้นหลังจากฉีดซิลิโคนเหลวไปแล้ว 3-5 ปี โดยจะเริ่มมีปฏิกิริยาต่อต้าน อักเสบ หรือผิดรูป #ดังนั้นทางที่ดี ก่อนตกเป็นเยื่อจากซิลิโคนเหลวหรือสารแปลอกปลอมต่างๆ คนไข้ควรปรึกษากับแพทย์โดยตรง สอบถามถึงข้อดีข้อเสียของสารที่ใช้ฉีด และในกรณีที่ได้ผลไม่เป็นที่พอใจ แพทย์สามารถแก้ไขให้ได้หรือไม่ หรือสถานที่ทำควรเป็นโรงพยาบาล หรือคลินิกที่มีมาตรฐาน มีการอนุมัติจากกองประกอบโรคศิลปะอย่างถูกต้องและตรวจสอบได้ คนไข้สามารถตรวจเช็คความชำนาญของแพทย์เฉพาะทางได้ที่ http://www.surgery.or.th/sur_list.php และ https://www.tmc.or.th/check_md/