แก้ไขคีลอยด์
คีลอยด์ (keloid) เป็นความผิดปกติของผิวหนังที่มีลักษณะนูน หนา แข็ง แดง คัน สาเหตุของการเกิดคีลอยด์ยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจน แต่มีปัจจัยส่งเสริมบางอย่างที่ทำให้เกิดคีลอยด์ขึ้นได้ เช่น การอักเสบติดเชื้อของแผล แผลที่มีการตึงมากหลังการเย็บตกแต่ง แผลขวางแนวตามธรรมชาติของผิวหนัง หรือ เชื้อชาติหรือผิวหนังของคนไข้เอง
พื้นที่ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษที่อาจเกิดคีลอยด์ขึ้นได้ เช่น หัวไหล่ หน้าอกส่วนบน ใบหู หรือแผลบริเวณข้อต่อต่างๆของร่างกายที่มีการเคลื่อนไหลตลอดเวลา พื้นที่เหล่านี้ต้องมีการระมัดระวังเป็นพิเศษหากต้องมีการผ่าตัด
ลักษณะของคีลอยด์
- มีก้อนโป่งนูนบริเวณแนวแผล
- บวม แดง คัน
- ลุกลานเข้าเนื้อเยื่อปกติได้ (Normal skin invasion)
วิธีการรักษาคีลอยด์
- การรักษาโดยไม่ผ่าตัด เช่น ทายาในกลุ่มซิลิโคนครีม หรือแปะแผ่นซิลิโคนชีท ร่วมกับการใช้ pressure dressing หรือ pressure garment
- การฉีดยาในกลุ่มสเตียรอยด์ เพื่อยับยั้งและกระตุ้นการเติบโตของเซลล์คีลอยด์
- การแก้ไขโดยการผ่าตัด อาจต้องให้ศัลแพทย์ตกแต่งหรือศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญตรวจพิจารณาและปรึกษาแนวทางการผ่าตักรักษาร่วมกันกับคนไข้
- ใช้ทุกวิธี (วิธี 1 – 3) มาร่วมกัน
ขั้นตอนการผ่าตัด

- แพทย์พิจารณาแนวทางในการผ่าตัดและดีไซน์ออกแบบแนวแผลผ่าตัดที่ให้กลมกลืนกับรอยธรรมชาติ (natural line/crease) ของร่างกาย เช่น หน้าผาก แผลควรจะอยู่ในแนวนอน
- แพทย์ทำการฉีดยาชาในตำแหน่งที่จะทำการผ่าตัด
- แพทย์ทำการตัดเนื้อคีลอยด์ออก
- แพทย์ทำการเลาะเนื้อเยื่อใต้ขอบแผลเพื่อปลดปล่อยขอบแผลเพื่อไม่มีแรงตึง (Undermining of tension release) ลดโอกาสเกิดแผลเป็น
- แพทย์ทำการเย็บตกแต่งปิดบาดแผล (closure wound)