โดยทั่วไปก็ต้องยึดหลักโดยดูสภาพตามความเป็นจริงของสภาพเนื้อเยื่อและผิวหนังบริเวณคาง โครงสร้างของกระดูกคาง และประวัติการผ่าตัดต่างๆ ที่ได้รับมาก่อนหน้านั้น ถ้าส่วนไหนขาดก็เติมเต็มส่วนนั้น ส่วนไหนเกินก็ต้องตัดหรือลดขนาดลงตามสภาพความเป็นจริงที่ศัลยแพทย์ตรวจพบ ซึ่งการเลือกวิธีต่างๆที่จะแก้ไขคางตัดเหล่านี้ ก็ต้องเป็นที่ตกลงและปรึกษาหารือกันแล้วระหว่างคนไข้และศัลยแพทย์ที่จะทำการผ่าตัด โดยพื้นฐานการแก้ไขเป็นหลักสำคัญ ซึ่งมีแนวทางการแก้ไขดังต่อไปนี้

1. ใช้เนื้อเยื่อธรรมชาติของคนไข้เอง เช่น การฉีดไขมันเติมเต็ม 

• ข้อดีคือ เป็นเนื้อเยื่อของตัวผู้ป่วยเอง ส่วนใหญ่ไม่มีผลแทรกซ่อน 
• ข้อเสีย จัดทรงได้ไม่มากนัก ไขมันอาจมีการย่อยสลายได้

2. การผ่าตัดเลื่อกระดูกคาง เหมาะสำหรับคนที่มีกระดูกคางพอเหมาะ ไม่เล็กมาก หรือคางไม่สั้นมาก 

• ข้อดี จัดรูปทรงได้ง่าย อยู่ถาวร ปลอดภัยความเสี่ยงต่ำ 
• ข้อเสีย เป็นการผ่าตัดใหญ่ต้องดมยาสลบ 

3. การผ่าตัดโดยใช้ซิลิโคนเสริมคาง เหมาะกับคนไข้ที่มีสภาพเนื้อเยื่อที่ดีปกติ 

• ข้อดี ทำง่ายรวดเร็ว ฉีดยาชาเฉพาะที่ จัดรูปทรงได้ดีพอสมควร ขึ้นกับสภาพเนื้อเยื่อของผู้ป่วย 
• ข้อเสีย อาจมีการเลื่อนเคลื่อนตัวของแผ่นซิลิโคนได้ในระยะแรก อาจมีการอักเสบจากการต่อต้านของร่างกาย 

4. โดยการฉีดฟิลเลอร์ เหมาะกับคนที่ต้องการสวยเร็ว 

• ข้อดี ไม่ต้องการผ่าตัด ฟื้นตัวไว 
• ข้อเสีย ไม่ถาวรมีการเสื่อมสลายของฟิลเลอร์ได้ แก้ไขรูปทรงได้ระดับหนึ่งเท่านั้น