แก้ไขจมูก

การผ่าตัดแก้ไขจมูกที่ผ่านการเสริม
ผลข้างเคียง จากการผ่าตัดที่ผ่านมา จมูกบิดเบี้ยว ซิลิโคนเกิดการทะลุที่ปลายจมูก เกิดการอักเสบติดเชื้อ จมูกต่ำเกินไป สาเหตุเหล่านี้ทำให้ต้องงทำการผ่าตัดแก้ไขอีกครั้งในกรณีเหล่านี้ สามารถแก้ไขได้ ดังนั้น ไม่ควรกังวลอยู่คนเดียว ควรมารับคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อทำการผ่าตัดแก้ไข และได้จมูกที่สวยงาม
ผลการผ่าตัดครั้งแรกไม่เป็นไปตามที่ต้องการ รูปแบบ หรือความสูง ของจมูกและปลายจมูกนั้น ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ต้องการผ่าตัดแก้ไข สิ่งสำคัญในการผ่าตัดแก้ไขนั้น ผู้ป่วยควรทำความเข้าใจให้ถูกต้องกับรูปแบบที่ต้องการ และมั่นใจว่ารูปแบบนั้นจะออกมาเหมาะสมรับกับใบหน้า เมื่อผ่าตัดแล้ว ได้รูปแบบจมูกที่ต้องการ แต่อาจจะไม่รับกับใบหน้าได้ ดังนั้น ควรจะปรึกษากับแพทย์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องทำการผ่าตัดแก้ไขซ้ำอีก
เวลาที่เหมาะสมในการผ่าตัดแก้ไข
ในการตัดสินใจว่าเมื่อไรควรจะรับการแก้ไขผ่าตัดนั้น สิ่งที่สำคัญคือ วิธีการ และ ประเภทของการผ่าตัดครั้งก่อนหน้านี้ การผ่าตัดขั้นพื้นฐาน เช่น สันจมูกที่โด่ง และปลายจมูกที่เชิด หลังจากที่ได้รับการผ่าตัดมาก่อนหน้านี้ ควรต้องรับการผ่าตัดอย่างรวดเร็ว ภายใน 10 วัน หรือไม่เช่นนั้นก็รอไปอีก 6 เดือน จึงจะสามารถผ่าตัดแก้ไขได้ แต่ในกรณีที่กระดูกอ่อนถูกตัดออกไป หรือ แผลที่ได้รับจากการผ่าตัดก่อนหน้านี้ เกิดเป็นแผลที่แข็ง หรือ เนื้อเยื่อที่จมูกไม่เพียงพอ ในกรณีเหล่านี้ ควรจะรอไปก่อนประมาณ 1-2 ปี ก่อนทำการผ่าตัดแก้ไข
วิธีการผ่าตัดแก้ไข
ซิลิโคนเคลื่อนที่ คือ ซิลิโคนเคลื่อนย้ายจากตำแหน่งเดิม
หรือไม่แน่นซิลิโคนที่มีการเคลื่อนที่นั้น สาเหตุเกิดมาจาก ตำแหน่งการวางของซิลิโคน ระหว่างกระดูกอ่อน และเนื้อเยื่อไม่ถูกที่ และเนื้อบนผิวจมูกเกิดดันแท่งซิลิโคน ทำให้เกิดการบิดเบี้ยวได้ เมื่อซิลิโคนที่อยู่ใต้ผิวหนังนั้น ไม่แน่นหรืออยู่ในตำแหน่งที่ไม่พอดีกับโครงจมูก ผิวหนังบริเวณปลายจมูกบาง เมื่อเวลาผ่านไป อาจทำให้เกิดการทะลุของแท่งซิลิโคนออกทางปลายจมูกได้ในกรณีที่ซิลิโคนอยู่ในตำแหน่งที่ไม่พอใจหรือเคลื่อนที่ ในการผ่าตัดแก้ไขนั้น แพทย์จะแก้ไขโดยเอาแท่งซิลิโคนเก่าออก และปรับช่องว่าง ใหม่ให้ตรงแนวกลางของจมูก แล้วใส่แท่งซิลิโคนใหม่ให้ หรือ ใช้วัสดุ Gore-Tex เสริมแทน เพราะวัสดุนี้จะยึดติดกับเนื้อเยื่อเลย
จมูกเบี้ยว หลังจากผ่าตัดจมูกแล้ว สาเหตุที่จมูกเบี้ยว
เบี้ยวนิดๆ แต่ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็นว่าเบี้ยว หรือ ตัวซิลิโคนที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน หรืออาจเป็นเพราะว่า การใส่ซิลิโคนไม่เข้าที่ ในคนธรรมดานั้น จมูกก็อาจจะเบี้ยวนิดหน่อยได้ด้วยเช่นกัน ในกรณีนี้ไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัดแก้ไขก็ได้ ก่อนผ่าตัดจมูกก็อาจจะเบี้ยวนิดหน่อยอยู่แล้ว แต่เราไม่ทันสังเกตเห็น แต่พอหลังจากผ่าตัดเสริมจมูกแล้ว ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ดูจมูกที่กระจกทุกวัน จนกระทั่งสังเกตเห็นว่า จมูกมีรูปทรงที่เบี้ยว ในกรณีนี้ แนะนำว่า เวลาปรึกษาแพทย์ก่อนทำการผ่าตัด ควรจะตรวจเช็คให้แน่ใจว่า รูปทรงจมูกปกติหรือไม่ หรือในกรณีที่รูปทรงจมูกมีการบิดเบี้ยวเพียงเล็กน้อย หรือแทบจะไม่สามารถสังเกตเห็นได้ แต่ให้ผู้ป่วยรับทราบไว้ว่า ในกรณีนี้ ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดแก้ไขรูปทรงจมูกที่เบี้ยวก็ได้ เมื่อใส่ซิลิโคนเข้าไปแล้ว สาเหตุที่ทำให้จมูกเบี้ยวนั้นอาจเกิดจากที่ การวางซิลิโคนไม่เข้าที่ ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของซิลิโคนไปด้านใดด้านหนึ่ง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้รูปทรงจมูกนั้นเบี้ยวได้ ดังนั้น ก่อนทำการเสริมจมูก ซิลิโคนที่ใช้ควรได้มาตรฐาน และมีขนาดที่พอดีกับจมูก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการเคลื่อนที่ขึ้นอีก ในกรณีที่รูปทรงจมูกนั้นเบี้ยวเพียงเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัดที่ยุ่งยากอีกครั้ง แต่อาจจะใช้วิธีนำไขมันจากหน้าท้องมาฉีดเข้าที่จมูก เพื่อปรับรูปทรงจมูกให้เข้าที่ได้ ดังนั้น ก่อนการตัดสินใจผ่าตัดแก้ไขจมูกนั้นควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดว่า จำเป็นจะต้องใช้วิธีไหน ที่เหมาะสมที่สุด
ปลายจมูกอักเสบ แดง และบาง
ซิลิโคนที่เสริมเข้าไปในจมูกแล้ว เมื่อได้รับการดันขับไล่มากๆ ทำให้ซิลิโคนดันมาที่ปลายจมูก ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้จมูกแดง และทำให้ผิวหนังปลายจมูกบางลงเรื่อยๆ และอาจถึงขั้นรุนแรงโดยที่ ซิลิโคนทะลุออกมานอกจมูกได้ ปลายจมูกที่บางลงจนกระทั่งสัมผัสซิลิโคนได้ การผ่าตัดแก้ไขนี้ทำโดยการเอาซิลิโคนออก และใช้ผิวหนังที่ชั้นหนังแท้ หรือ ใช้เนื้อเยื่อบริเวณหลังใบหู หรือ การใช้ Alloderm หรือ ที่เรียกว่าชั้นหนังแท้เทียม มาเสริมบริเวณเนื้อเยื่อปลายจมูก ในกรณีที่บริเวณปลายจมูกนั้นบางมากๆ หรือมีการติดเชื้อและอักเสบมากๆ ควรรีบทำการผ่าตัดแก้ไขเอาซิลิโคนออกโดยเร็ว
จมูกหลังจากผ่าตัดเสริมแล้วไม่เป็นธรรมชาติ
หลังจากที่ผ่าตัดแล้ว ดั้งจมูกระหว่างคิ้ว และปลายจมูกที่สูงเพิ่มขึ้นกว่าปกติ ทำให้หน้าตาดูอึดอัด แปลกตา หน้าตาดูดุ น่ากลัว ตั้งแต่หน้าผาก จนถึงปลายจมูก ตัดกันกับระดับของชั้นตา 2 ชั้น จุดที่ตัดกันนั้น นั้นเรียกว่า golden point ซึ่งในการผ่าตัดเสริมจมูกนั้น ควรเริ่มเสริมตรงที่จุด golden point เพื่อให้ได้สัดส่วนที่ดี และออกมาสวยงามที่สุด ในกรณีที่ตำแหน่งของซิลิโคนนั้น อยู่สูงหรือต่ำจากจุด golden point นั้นจนเกินไป สามารถผ่าตัดแก้ไขให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมได้
การเห็นเป็นสันของแท่งซิลิโคน
เมื่อหนังบริเวณจมูกนั้นบางลง ทำให้เห็นเส้นเลือดฝอย จมูกบาง แดง ใส สาเหตุเกิดจาก ผิวหนังบางมาก หรือการใช้ซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่จนเกินไป วิธีการผ่าตัดแก้ไข คือ การเปลี่ยนขนาดซิลิโคนให้เล็กหรือบางลง หรือไม่ก็ ในกรณีที่ผิวหนังบางมากๆ ใช้ผิวหนังที่ชั้นหนังแท้มาเติม เพื่อให้จมูกมีความหนาขึ้น ผู้หญิงนั้นมีความต้องการในความงามเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด อย่างเช่น ในกรณีของการศัลยกรรมจมูกนั้น จมูกที่บิดเบี้ยวที่เกิดจากการผ่าตัดครั้งก่อนหน้านี้ ที่ต้องได้รับการผ่าตัดแก้ไข หรือไม่ก็ในกรณีที่การผ่าตัดมาแล้วไม่เป็นที่พอใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เป็นสาเหตุทำให้มีการผ่าตัดแก้ไขเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ การผ่าตัดศัลยกรรม หรือการผ่าตัดแก้ไขทั้งหมดนี้ ก่อนการผ่าตัดแก้ไขนั้น ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดว่า ต้องการแก้ไขจมูกให้ออกมาในรูปแบบไหน และจำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจว่าการผ่าตัดครั้งก่อนที่ผ่านมา มีการผิดพลาดอย่างไร เพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ปลายจมูกหนา
หลังจากที่ทำการเสริมจมูกมาแล้ว สันจมูกและความสูงนั้นพอดีแล้ว แต่ปัญหาที่พบได้บ่อยคือ ปลายจมูกนั้นไม่คม สาเหตุเกิดจาก เป็นคนที่มีเนื้อที่ปลายจมูกมากอยู่แล้วตั้งแต่แรก หรือคนที่ไม่ได้ผ่าตัดตกแต่งปลายจมูกในระหว่างที่ทำการเสริมจมูก ในปัจจุบันนี้ มีการใช้ Alloderm เพื่อตกแต่งปลายจมูก แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป Alloderm ที่ใช้นั้น อาจเปลี่ยนรูปทรงได้ทำให้รูปทรงปลายจมูกนั้นเปลี่ยนไปได้เช่นกัน สาเหตุเกิดจากที่ Alloderm นั้นคือหนังแท้เทียม ที่สามารถใช้ในการยึดได้ดีและให้รูปทรงที่สวยงาม แต่เนื่องจากวัสดุนั้น คือผิวหนัง ดังนั้น หลังจากเวลาผ่านไปสักพัก Alloderm นั้นการยึดติดก็คลายลง จากนั้นก็จะกลายเป็นผิวหนังและทำให้จมูกหนาได้เหมือนเดิม การผ่าตัดทำโดยการผ่าเอาเนื้อเยื่อ และกระดูกอ่อนที่ปลายจมูก ทำให้ความกว้างของปลายจมูกแคบลง และใช้วิธีเย็บกระดูกอ่อนที่ปลายจมูกเข้าด้วยกัน และใช้กระดูกอ่อนบริเวณใบหูมาช่วยยึด จึงทำให้ปลายจมูกมีรูปทรงที่บางลงและเชิดขึ้น
การแก้ไขจมูก
กระบวนการการแก้ไขจมูก
